เรื่องราวความกล้าและกลยุทธ์ของ Nose Tea จากครีมลอกสิวเสี้ยน สู่แบรนด์ชาชีสจมูกเขียว!

เรื่องราวความกล้าและกลยุทธ์ของ Nose Tea จากครีมลอกสิวเสี้ยน สู่แบรนด์ชาชีสจมูกเขียว!

เห็นโอกาสแล้วกล้าลุยในสนามใหม่ด้วย Storytelling ที่จริงใจ

    ก่อนหน้าจะก่อตั้งแบรนด์ Nose Tea ทีมผู้ก่อตั้งได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศและสังเกตเห็นว่า “ชาชีส” เป็นธุรกิจที่มีลูกค้าต่อคิวยาวทุกปี ซึ่งสะท้อนว่าสินค้านี้เป็นสินค้าที่มี Demand จริง ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว

    กลยุทธ์ปั้นแบรนด์ที่ Nose Tea ใช้

    • ทดลองตลาดก่อนขยายแบรนด์จริงจัง ด้วยการเปิด Pop-up Store เพื่อลองระบบ ตั้งราคา และเช็กว่าคนไทยจะอินกับสินค้านี้หรือไม่
    • เล่าเรื่องบน TikTok โดยใช้การสื่อสารแบบตรงไปตรงมา ถ่ายทอดความตั้งใจของแบรนด์โดยไม่ปรุงแต่ง ทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ว่าแบรนด์จริงจังและพร้อมทุ่มเทกับธุรกิจนี้
    • สร้างภาพลักษณ์ Premium ผ่านดีไซน์ร้านที่ดูสะอาด มีระบบ สร้าง Perception ว่าการทำชาไม่ได้มีความจริงจังน้อยไปกว่าการทำกาแฟ

    กลยุทธ์นี้เองที่ทำให้ Nose Tea เปิดตัวได้อย่างโดดเด่นและกลายเป็นที่จดจำได้อย่างรวดเร็ว

    หน้าร้านคือเวทีสร้างการรับรู้ ไม่ใช่แค่ทำเล

      หลายแบรนด์อาจเลือกทำเลเพื่อยอดขายเป็นหลัก แต่ที่ Nose Tea เลือกเปิดสาขาแรกอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์ เพราะไม่ได้มองแค่ว่าโลเคชันนี้เป็นทำเลที่กลุ่มเป้าหมายเดินผ่านเยอะน่าจะขายของได้ แต่เป็นกลยุทธ์และยุทธศาสตร์การสร้างแบรนด์ที่มองว่าหน้าร้าน Off-line ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้าง Brand Awareness ด้วย

      ทำไมต้องเลือกทำเลนี้?

      • เพราะสยามคือ Landmark ของวัยรุ่นและนักช้อป ทำให้แบรนด์ได้รับ Exposure ทุกวัน
      • การมีร้านอยู่ในทำเลนี้ช่วยให้ Nose Tea กลายเป็นแบรนด์ที่ถูกพูดถึงบ่อยขึ้นทั้งออฟไลน์และออนไลน์

      หน้าร้านจึงไม่ใช่แค่จุดขาย แต่เป็น Brand Awareness Touchpoint ที่ทรงพลัง

      ใช้เทคโนโลยีหลังบ้าน สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

        Nose Tea เข้าใจดีว่าไวรัลอาจเป็นโอกาสที่ช่วยดึงลูกค้ามาได้เยอะ แต่มันก็เป็นการเติบโตในระยะสั้นเท่านั้น สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้คือระบบที่ดีและเสถียร

        เทคโนโลยีที่ Nose Tea ใช้

        • เครื่องชงอัตโนมัติ ที่ช่วยลดเวลา เพิ่มความแม่นยำ และรองรับลูกค้าได้มากขึ้น
        • ระบบ Pick-up + Data Management ที่ช่วยจัดคิวได้ดีขึ้น เก็บข้อมูลการสั่งซื้อ และวิเคราะห์ของเสียเพื่อลดต้นทุน
        • ออกแบบระบบให้ดีตั้งแต่ต้น เพื่อรองรับการขยายสาขา ทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน

        การลงทุนกับระบบตั้งแต่วันแรกคือกุญแจที่ทำให้ Nose Tea ไม่ใช่แค่กระแส แต่กลายเป็นธุรกิจจริงที่ยังเติบโตได้เรื่อย ๆ

        บทเรียนที่เรียนรู้ได้จาก Nose Tea

        • กล้าที่จะเปลี่ยนสนาม เมื่อเห็นโอกาสใหม่
        • ใช้ Storytelling ที่จริงใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
        • คิดเชิงกลยุทธ์กับหน้าร้าน ไม่ใช่แค่การขาย
        • ลงทุนกับระบบหลังบ้านที่ดี เพื่อการเติบโตระยะยาว

        ทั้ง การมองเห็นโอกาส + ความกล้าที่จะลงมือทำ + การคิดเชิงกลยุทธ์ทั้งการตลาดและระบบหลังบ้าน คือเหตุผลที่ Nose Tea กลายเป็นอีกหนึ่ง Case Study ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับแบรนด์ที่กำลังคิดจะ “พลิกเกม” ของตัวเองในวันนี้

        Share on facebook
        Facebook
        Share on twitter
        Twitter
        Share on linkedin
        LinkedIn