Customer Lifetime Value (CLV) คืออะไร?
Customer Lifetime Value (CLV) หรือ “มูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า” คือ การคาดการณ์รายได้รวมทั้งหมดที่ธุรกิจจะได้รับจากลูกค้าหนึ่งคนตลอดช่วงเวลาที่พวกเขายังคงเป็นลูกค้าของแบรนด์อยู่
พูดให้ง่ายขึ้น CLV ไม่ได้มองแค่ยอดซื้อในครั้งแรก แต่เป็นการมองภาพระยะยาวว่าลูกค้าคนนี้จะสร้างรายได้ให้กับเราทั้งหมดเท่าไหร่ ตั้งแต่วันแรกที่ซื้อสินค้าจนถึงวันสุดท้ายที่เลิกเป็นลูกค้าของเรา
ตัวอย่างเช่น
ลูกค้า A: ซื้อสินค้าราคา 5,000 บาทเพียงครั้งเดียวแล้วหายไปเลย
ลูกค้า B: ซื้อสินค้าราคา 1,000 บาท แต่กลับมาซื้อซ้ำทุกเดือนเป็นเวลา 2 ปี
หากมองแค่ยอดซื้อครั้งแรก ลูกค้า A อาจดูมีค่ามากกว่า แต่เมื่อเราคำนวณ CLV จะเห็นได้ชัดว่าลูกค้า B คือคนที่มี “มูลค่า” ต่อธุรกิจในระยะยาวสูงกว่ามาก (1,000 บาท x 24 เดือน = 24,000 บาท) นี่คือพลังของการเข้าใจ CLV
ทำไม Customer Lifetime Value (CLV) ถึงสำคัญกับธุรกิจ?
การวัดผลและทำความเข้าใจ CLV ให้ประโยชน์กับธุรกิจในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่
ช่วยให้ตัดสินใจลงทุนในการหาลูกค้าใหม่ได้ดีขึ้น: เมื่อคุณรู้ว่าลูกค้าหนึ่งคนมีมูลค่าเท่าไหร่ คุณจะตอบได้ว่าควรใช้งบประมาณไม่เกินเท่าไหร่เพื่อหาลูกค้าใหม่หนึ่งคน (สัมพันธ์กับค่า Customer Acquisition Cost หรือ CAC)
เพิ่มกำไรจากการรักษาลูกค้าเก่า: การรักษาลูกค้าเก่าใช้งบประมาณน้อยกว่าการหาลูกค้าใหม่ 5-25 เท่า การเพิ่ม CLV จึงหมายถึงการเพิ่มกำไรโดยตรง
ช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ: คุณสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าตาม CLV เพื่อดูแลลูกค้าระดับ VIP หรือสร้างแคมเปญกระตุ้นการซื้อซ้ำสำหรับกลุ่มที่เริ่มห่างหายได้
เป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าและบริการ: ข้อมูลจากลูกค้าที่มี CLV สูงคือขุมทรัพย์ชั้นดีในการนำไปพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์มากที่สุด
ชี้วัดความมั่นคงและยั่งยืนของธุรกิจ: ธุรกิจที่มี CLV สูงแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและความภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตในระยะยาว