เชื่อว่าร้อยทั้งร้อย หลายคนอยากหาธุรกิจสักตัวเพื่อลงมือทำแต่พอคิดจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างก็จะเกิดคำถามว่า “แล้วจะทำธุรกิจอะไรดี” จะหาสินค้าอะไรมาขาย วันนี้เรามาแบ่งปันวิธีการหาธุรกิจที่เหมาะกับตัวเรา เคล็ดลับทำธุรกิจอะไรดี ที่เหมาะกับตัวเรา เริ่มจากตัวเราคือจากความชอบ ความรัก ความถนัด ถ้าทำธุรกิจแล้วเริ่มด้วยตัวเงิน มันจะเครียด แต่ถ้าเริ่มด้วยความสนุก และความรัก อยากได้แบบไหน อยากทำอะไร เริ่มจากตรงนั้น อย่าเพิ่งรีบร้อนเรื่องการเงินเพราะเดี๋ยวเงินมันจะตามมาเอง หมกมุ่นกับสิ่งที่ทำ ที่ต้องใช้คำว่า “หมกมุ่น” คือถ้าเราต้องขลุกอยู่แต่กับสิ่ง ๆ นั้น ทดลองให้ชำนาญ ทำให้คล่อง มากพอ จะทำให้เรามีความเป็นมืออาชีพในเรื่องนั้น ๆ ก่อน เพราะความชำนาญจะทำให้เรามั่นใจ และไม่กลัวว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร เมื่อชำนาญแล้วก็ได้เวลาบอกให้โลกรู้ว่าเรามีดีอะไร เรามีสินค้าอะไร เรามีบริการอะไรที่เขาต้องหันมามอง และลองมาซื้อใช้ สื่อสารให้เข้าใจง่าย ซึ่งสำคัญกว่าเรามีสินค้าดีอีกนะ เพราะสินค้ามันไม่มีปากบอกลูกค้าหรอกว่า คุณภาพดีขนาดไหน แต่คนแรกที่จะทำให้รับรู้ได้ว่าสินค้าดีขนาดไหนก็ต้องเป็นตัวเราที่พูดแทนสินค้า ดังนั้น “เราต้องสื่อสารให้เข้าใจง่าย” พูดเป็น สื่อสารเป็น วาจาไพเราะเหมาะแก่การคบค้าสมาคม เพราะต่อให้คุณเก่ง เชี่ยวชาญ แต่การสื่อสารไม่เข้าท่า ธุรกิจก็ไม่รอดนะคะ ส่วนนี้คงต้องฝึกต้องพัฒนา และคุณต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมกับพัฒนา แล้วผู้คนจะเปลี่ยนแปลงมาหาสินค้าของคุณ ความพึงพอใจของลูกค้าจะทำให้กำไรวิ่งตาม จำไว้เลยว่าลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่ความพึงพอใจของลูกค้าต่างหากคือพระเจ้า […]

ยุคนี้ใคร ๆ ก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองเพราะนอกจากจะไม่ต้องเป็นลูกน้องใครเเล้ว รายได้ยังมากอีกด้วย แต่ตอนนี้ธุรกิจก็มีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ทำให้การแข่งขันสูง ซึ่งส่วนมากช่องทางที่เจ้าของธุรกิจเลือกก็คือ ตลาดออนไลน์ เพราะในปัจจุบันคนสามารถเข้าถึงได้มากและรวดเร็ว ดังนั้นเราควรมี กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ที่ดี แต่เราไม่จำเป็นต้องทิ้งของเก่าและไปเริ่มของใหม่เพราะ พื้นฐานการตลาดแบบดั้งเดิมคือสิ่งที่จำเป็น ไม่แพ้กัน และยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ต่อยอดในโลกออนไลน์ได้ด้วย วันนี้เราเลยมีกลยุทธ์เกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์ตามหลัก 4P มาฝาก 1.Product Strategy การสร้างจุดเด่นให้สินค้า ที่ลูกค้าสมารถจดจำสินค้าของคุณได้ โลโก้ของสินค้าก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน แต่การสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจก็ช่วยดึงดูดความเป็น Unique ของสินค้าเราได้หมือนกัน 2.Pricing Strategy การตั้งราคาให้เหมาะสมกับสินค้า แต่ก็ห้ามลืมเผื่อค่าจัดส่งด้วยนะ เพราะในธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีค่าบริการจัดส่งสินค้าเสมอ หรือบางร้านอาจจะมีโปรโมชั่นจัดส่งฟรีก็ได้นะ 3.Place Strategy เราต้องคำนึงว่าสินค้าของเราเหมาะกับกลุ่มลูกค้าประเภทไหน เช่น เพศ อายุ ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้านั้นได้ เพราะนี่คือโจทย์ที่นักการตลาดออนไลน์ต้องตีให้แตก 4.Promotion Strategy ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเป็นสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีไม่ว่าจะขายแบบออฟไลน์หรือออนไลน์ ก็คือการจัด เช่น จัดส่งสินค้าฟรี ลด 50% เป็นต้น ข้อมูลดังกล่าวก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ ที่สามารถทำให้ธุรกิจของคุณมีรายได้เพิ่มมากขึ้น 

ถ้าหากคุณกำลังเริ่มทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ ของตัวเอง แน่นอนว่าสิ่งแรกของคุณคือการทำให้สินค้าของคุณเป็นที่รู้จักและมียอดขายตามที่วางไว้ แต่จะทำอย่างไรให้คนมารู้จัก สนใจสินค้าของคุณและพอใจที่จะยอมเสียเงินซื้อสินค้าของคุณ ซึ่งการทำ Review สินค้าคือคำตอบของคุณ การ Review จะช่วยให้สินค้าที่เพิ่งเริ่มมียอดขายที่ดีขึ้นได้  เพราะสิ่งสำคัญอีกอย่างที่ช่วยดึงดูดลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายก็คือ ลูกค้ามองเห็นประโยชน์ ข้อดีของสินค้าของคุณะ ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้าจะเห็นได้เราก็ต้องทำการ Review เป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจของลูกค้าว่าเขาจะยอมเสียเงินซื้อสินค้าของคุณหรือไม่  เพราะการ Review เป็นวิธีที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและเพิ่มโอกาสให้กับยอดขายได้เป็นอย่างดี การ Review มีหลายรูปแบบ เช่น Review แบบ Before-After เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพของสินค้า Review ผลตอบรับของลูกค้าจากการใช้บริการ หรือสั่งซื้อสินค้า การตอบคำถาม การแนะนำสินค้า รวมไปถึงการส่งสินค้า โดยคุณสามารถสอบถามความพึงพอใจของลูกค้าแล้วนำข้อมูลในส่วนนี้มา Review ได้ ถือเป็นการบริการหลังการขายของคุณไปในตัว ยิ่งจะทำให้ลูกค้าประทับใจอีกด้วย   นอกจากการ Review แล้วการที่มีคนดังหรือผู้เชี่ยวชาญหรือเป็นที่รู้จักในแวดวงของสินค้าประเภทนั้น ๆ มา Review หรือให้ความรู้ในสินค้าของคุณ อาจจะต้องลงทุนหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าคุ้ม สินค้าของคุณก็จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น และทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจและเชื่อมั่นในสินค้าของคุณ   ลองนึกภาพตามว่าหากคุณยังไม่เห็นข้อดีหรือมีการ Review  แล้วคุณต้องการที่จะซื้อผลิตภัณฑ์รักษาสิวบนใบหน้า ท่ามกลางสินค้ามากมายหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งผลิตภัณฑ์รักษาสิวในร้านค้าออนไลน์นั้น องค์ประกอบสำคัญของลูกค้าที่จะใช้ในการตัดสินใจว่าจะเลือกเสียเงินให้กับผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อใด นอกจากราคา ปริมาณ […]

วันนี้เรามีเคล็ดลับในการสร้างแบรนด์ธุรกิจเครื่องสำอางแบบเข้าใจง่าย ๆ มาบอก สำหรับคนที่ต้องการสร้างธุรกิจเครื่องสำอางในปี 2019 นี้ มาฝากกัน รับรองเลยว่าจะทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจเครื่องสำอางนี้อย่างแน่นอน 1.เลือกประเภทเครื่องสำอางที่สนใจ สามารถเริ่มจากประเภทสินค้าที่คุณรู้จักเป็นอย่างดี เพราะว่าคุณจะมีความรู้และประสบการณ์เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องไปเริ่มหาข้อมูลใหม่ ทั้งยังทำให้คุณมั่นใจเวลาแนะนำหรือประชาสัมพันธ์และคุณจะเป็นเจ้าของแบรนด์ขายครีมและเครื่องสำอางได้ไม่ยาก 2.เลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีประสบการณ์ การเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีประสบการณ์ที่ดีนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่าจะทำให้เเบรนด์ของคุณน่าเชื่อถือ ซึ่งโรงงานควรมีคำปรึกษาและคำแนะนำที่ดี สามารถกำหนดระยะเวลาการผลิตที่ชัดเจนและมีความรับผิดชอบอย่างสูง 3.วางคอนเซปต์ของแบรนด์ โดยการวางคอนเซปต์นั้นจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายหรือทิสทางของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงการตั้งชื่อสินค้าที่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ ซึ่งคุณสามารถแจ้งคอนเซปต์ต่าง ๆ ให้ทีมการตลาดของทางโรงงานเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ 4.ขั้นตอนการผลิต สามารถเริ่มได้ทันที พร้อมบริการจด อย.โดยใช้สูตรที่คุณมีอยู่แล้ว หรือเลือกสูตรมาตรฐานของบริษัทที่มีให้คุณเลือกก็ได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ คุณก็สามารถปรึกษากับทางโรงงานเพื่อคิดสูตรขึ้นมาใหม่ได้ 5. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ รูปลักษณ์และความสวยงามของบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งแรกที่ทำให้สินค้าเป็นที่จดจำและซื้อ ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ต้องมีเอกลักษณ์ จดจำง่าย พร้อมบอกสรรพคุณต่าง ๆ ให้ครบถ้วน จะช่วยให้สินค้าโดดเด่นน่าซื้อและเป็นที่พึงพอใจของผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น 6.ช่องทางการตลาด คุณจะต้องศึกษาคู่แข่ง เรียนรู้และทันกระเเส แล้วนำมาพัฒนาแบรนด์ของคุณอยู่เสมอ ทั้งนี้การขอคำปรึกษาจากทีมการตลาดโรงงานก็สามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางเพิ่มยอดขาย สร้างรายได้ให้กับคุณได้ และแบรนด์ของคุณจะประสบความสำเร็จ 7.ทำบัญชีและวางแผนคลังสินค้า การทำบัญชี นอกจากจะช่วยให้คุณวางแผนทางการเงินได้แล้วยังมีประโยชน์มากมาย หากคุณทำบัญชีไว้ก็จะสามารถกำหนดเงินลงทุนการตลาดโปรโมทสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายได้ นอกจากนี้ควรวางแผนคลังสินค้า เพราะหากสินค้าขาดสต๊อก ในวันที่สินค้ากำลังเป็นที่ต้องการนั้นเท่ากับว่าคุณกำลังเสียรายได้ไปฟรี ๆ เพราะไม่ได้วางแผน […]

ถ้าพูดถึง Content แล้วไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นการเขียนบทความหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยตรงเสียทุกครั้ง บางครั้งอาจจะเป็นเนื้อหาเบา ๆ ช่วยในการทำการตลาดและยังสามารถเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงก่อให้เกิดกระแสการแชร์ต่อไปได้เช่นกัน และนี่คือ Content เบาๆ ที่เราสามารถนำมาเล่นผ่านช่องทางของโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้ Content วันสำคัญหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราหรือไม่มีความเกี่ยวข้อง แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ บางครั้งสามารถนำมาใช้เป็นลูกเล่นเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับ Content ได้  เช่น วันสำคัญทางศาสนา เทศกาลต่าง ๆ คำคม หรือคำพูดแนวสร้างแรงบันดาลใจ คำพูดแนวให้กำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นการคิดขึ้นมาด้วยตัวเองหรือหยิบยกมาจากคนดังทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทำข้อความดี ๆ โดน ๆ สั้น ๆ กระชับได้ใจความเสริมด้วยภาพเพื่อเพิ่มอรรถรส รวมถึงคำกลอน คำคมคนดัง  หากนำ Content ดังกล่าวมาอาจจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ทำอยู่ก็ได้ เพราะสามารถเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย ช่วยดึงความสนใจหรือเพิ่มจำนวนผู้ Follow ได้ แชร์บทความหรือรูปภาพที่น่าสนใจจากคนอื่น บางครั้งการแชร์Content ของคนอื่นที่เป็นข่าวดังหรือประเด็นที่ทุกคนกำลังพูดถึงกันอยู่ก็จะทำให้มีคนรู้จักแฟนเพจหรืออินสตาแกรมของเรามากขึ้น แต่ก็ไม่ควรทำบ่อย และควรจะเป็นข่าวเชิงบวกเท่านั้น ไม่ควรเป็นข่าวด้านลบ Content ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ยังคงเป็นเนื้อหาที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เสมอ สามารถทำได้ทั้งแชร์บทความหรืออินโฟกราฟฟิคจากคนอื่น หากยิบเนื้อหาจากคนอื่นมาต้องให้เครดิตกับแหล่งที่มาด้วย ภาพประกอบสวย ๆ พร้อมแคปชั่นดี ๆ รูปภาพยังคงเป็นสิ่งที่เรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ภาพแนว […]

ในปัจจุบันมีธุรกิจเกิดขึ้นใหม่ในทุก ๆ วัน จนเต็มตลาดไปหมด ทำให้หลายธุรกิจล้วนพยายามหาสิ่งใหม่ ๆ และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ  “ความแตกต่าง” ให้กับธุรกิจของตัวเอง เพื่อความโดดเด่นจากคนอื่น หรือเป็นจุดขายให้กับตัวเอง ซึ่งความแตกต่างนั้นนี้ก็มีเยอะแยะมากมายเพียงแต่ขึ้นอยู่กับเจ้าของธุรกิจว่าหาความแตกต่างในธุรกิจของตัวเองเจอหรือเปล่า วันนี้เรามี 9 ไอเดียที่น่าจะเป็น “ความแตกต่าง” ให้กับแต่ละธุรกิจได้ลองเอาไปปรับใช้ให้กับธุรกิจของตัวเอง ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย… 1. ราคา แน่นอนเลยว่า ราคา เป็นอย่างแรกที่หลายคนต้องนึกถึงเป็นอย่างเเรก การตั้งราคาต่างจากคู่แข่งนั้นไม่ว่าจะถูกกว่า หรือแพงกว่า เราต้องมั่นใจว่ามีข้อดี–ข้อเสียกันคนละแบบ เพราะไม่ใช่ว่าของถูกกว่าแล้วจะดีกว่าแล้วของที่แพงกว่าเสมอไป อย่างไรเเล้วควรตั้งราคาให้เหมาะสม 2. ความสะดวกในการใช้บริการหรือซื้อ ลองคิดว่าเป็นตัวเราเวลาที่จะซื้อสินค้าอะไรสักชิ้นบางร้านอาจจะมีขั้นตอนการสั่งซื้อที่ต้องกรอกข้อมูลนูนนี่นั่นเต็มไปหมดแต่บางร้านแทบไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรเลยนี่ยังไม่รวมกับช่องทางการจัดจำหน่ายที่บางธุรกิจมีข้อจำกัดเยอะในขณะที่อีกร้านใช้งานง่ายและสะดวกกว่าถ้าเป็นเราก็ต้องเลือกร้านที่สะดวกสบายหรือร้านที่ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรมากมายจริงไหม 3. คุณภาพสินค้าหรือบริการ คุณภาพสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ อีกอย่าง เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถมองข้ามในเรื่องของความสะดวกไปได้บ้าง เพราะลูกค้าหลายกลุ่มก็ยอมที่จะจ่ายแพงกว่า หรือยอมที่จะยุ่งยากกว่าเดิมถ้าได้ของที่ “ดีกว่า” นั่นเอง 4. มีของพร้อมส่ง บางร้านขายของดีมาก ๆ แต่ของขาดตลาดตลอด ต้องจอง ต้องรอ ต้องต่อคิวนาน ๆ เป็นเหตุให้บางธุรกิจใช้โอกาสนี้ในการชูจุดต่างว่าร้านของเขามีของตลอด หรือถ้าเป็นร้านขายของก็ประเภทเปิด 24 ชม. อะไรประมาณนั้น เเละอาจจะทำให้เราเสียลูกค้าได้ 5. […]

หน้าร้านเป็นส่วนที่สำคัญมากในการเรียกลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมาให้ชะงักและหยุดมอง เพราะว่าสินค้าที่โชว์อยู่นั้นมันเตะตาต้องใจซะเหลือเกิน เวลาที่เราเดินตามห้างสรรพสินค้าหรือตลาดนัดเราก็จะเห็นสินค้าหน้าร้านที่จัดตกแต่งชวนต้องให้เดินเข้าไปหยิบ ๆ จับ ๆ รู้ตัวอีกก็ซื้อมาซะแล้ว ถ้าตลาดนัดล่ะ ? จะสามารถจัดหน้าร้านให้ออกมาได้ดึงดูดใจเหมือนในห้างสรรพสินค้าได้หรือเปล่า ? ขอบอกเลยว่าได้แน่นอน เพียงแค่รู้จักการนำเทคนิคและหลักการจัดวางสินค้าเข้ามาช่วย แค่นี้หน้าร้านของพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายก็จะโดดเด่นขึ้นมาในพริบตา ไปดูกันเลยว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง ? การเตรียมตัว 1.รู้จักตัวเอง? รู้จักตัวเอง ในที่นี้คือ รู้จักสินค้าของตัวเองเป็นอย่างดี ว่าเรากำลังขายสินค้าประเภทไหน ?(products) เราขายให้ใคร ?(target) การที่เรารู้จักสินค้าของตัวเองเป็นอย่างดีเพราะทุกครั้งที่เราแนะนำสินค้าจะทำให้เราคล่องแคล่ว พูดจาฉะฉาน กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี และเมื่อเรารู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราเป็นกลุ่มไหน โอกาสในที่ลูกค้าจะเข้ามาในร้านย่อมมีอย่างแน่นอน 2.เลือกทำเล การหาทำเลที่ตั้งร้าน จุดสำคัญอย่างหนึ่งของการขาย เราควรเลือกอยู่ที่ที่เป็นสินค้าประเภทเดียวกัน เพื่อที่ว่าเวลาลูกค้าเดินเลือกซื้อสินค้า จะทำให้ลูกค้ามีเวลาในการตัดสินใจว่าจะเลือกร้านไหนดี ยกตัวอย่างเช่น ขายรองเท้า ก็ควรเลือกที่ตั้งร้านให้อยู่ในกลุ่มสินค้ารองเท้าด้วยกัน เพราะถ้าแยกออกไปอยู่ร้านเดียวโดด ๆ หรือไปขายปะปนกับสินค้าคนละประเภท เพื่อหวังจะเป็นร้านเดียวที่ขายบริเวณนั้น คุณคิดผิดเพราะลูกค้าอาจจะเดินมาไม่ถึงร้านคุณก็ได้เพราะคิดว่าหมดไม่มีร้านค้าอื่นแล้ว แต่โชคดีที่ปัจจุบันพื้นที่ในการวางขายสินค้าได้ถูกจัดให้เป็นระเบียบโดยการจัดให้สินค้าประเภทเดียวกันอยู่ในโซนเดียวกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการจับจองพื้นที่โซนดี ๆ ใครเร็วกว่าคนนั้นได้นะจ๊ะ 3. เตรียมอุปกรณให้พร้อมขาย ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตะแกรง เต้นท์ ราวแขวน ไม้แขวนเสื้อ […]

ทุกวันนี้การการค้าขายทางออนไลน์นับเป็นอีก 1 ธุรกิจที่กำลังมาแรง ซึ่งการค้าขายผ่านการพูดคุย หรือ conversational commerce คือการค้าขายผ่านการสนทนากับลูกค้าออนไลน์หรือที่เราเห็นบ่อย ๆ ใน Facebook, Line, Instagram นั้น เป็นการผสมผสานระหว่างการพูดคุยกับลูกค้าหรือผู้ใช้งานและแทรกการขายของลงไปด้วยนั่นเอง ลูกค้ามักจะพบร้านค้าจากช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และถ้าหากแบรนด์ไหนที่มีการพูดคุยกับลูกค้าออนไลน์ไปด้วยก็จะทำให้จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 – 4 เท่าเลยทีเดียว จากแนวโน้มดังกล่าว ทุกวันนี้แบรนด์ต่าง ๆ ก็เริ่มเพิ่มระบบการพูดคุยกับลูกค้าออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขายด้วยเช่นกัน 1. วางเป้าหมายที่ชัดเจน เริ่มจากการการระบุเป้าหมายของธุรกิจของคุณให้แน่ชัดว่าต้องการขายอะไร รวมไปถึงจุดประสงค์ของแบรนด์คุณ ก่อนจะทำการโฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้า การชัดเจนในจุดประสงค์ของธุรกิจหรือการขายก็จะทำให้พนักงานผู้ให้บริการของคุณทำงานได้ ตัวอย่าง เช่น หากคุณเริ่มโปรโมทแบรนด์ของคุณให้เป็นที่รู้จัก การจัดตั้งเว็บไซต์ที่สามารถสนทนากับผู้เข้าชมหรือลูกค้าก็จะเป็นช่องทางการติดต่อที่ง่ายดายและรวดเร็วสำหรับพวกเขาในการหาข้อมูลนั่นเอง แถมวิธีนี้ยังคงช่วยเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ของคุณและยังช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดอีกด้วย 2. ควรศึกษาเกี่ยวกับสิ่งที่จะลงมือทำ ทำการศึกษา ควรหาหน่วยงานเกี่ยวกับธุรกิจที่คล้ายกับที่คุณวางแผนว่าอยากทำ โดยหาบริษัทที่แชทกับลูกค้าออนไลน์เพื่อใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นมาตรฐานในการพัฒนาธุรกิจของคุณ แต่สิ่งสำคัญก็คืออย่าลืมรับฟังลูกค้า เพราะเป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าด้วย อย่างเช่น ผลสำรวจของ LivePerson  จากชาวออสเตรเลียหนึ่งพันคน พบว่าปัญหาหลัก ๆ ที่พวกเขามักบ่นถึงในการสั่งซื้อสินค้ากับบริษัทออนไลน์ก็คือ ต้องรอการติดต่อกลับจากบริษัทเป็นเวลานาน และการต้องทวนข้อมูลการสั่งซื้อของพวกเขากับตัวแทนหลาย ๆ รอบ  […]

“กระเป๋าหนัง” เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่น่าสนใจในการนำมาสร้างอาชีพ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่องทางในการลงทุน หรืออยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง การขายกระเป๋าหนัง ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถทำเงินได้เป็นอย่างดี เพราะมีผู้ประกอบการหลายรายที่เลือกจำหน่ายสินค้าดังกล่าวและประสบความสำเร็จเป็นจำนวนไม่น้อย   นำสินค้าจากที่ไหนถึงจะดี ? 1.ผลิตขึ้นเอง การผลิตขึ้นเอง ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหลายรายเลือกที่เลือกสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาด้วยชิ้นงานแฮนเมด สู่การสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพราะผู้ประกอบส่วนใหญ่มักมีใจรักในงานดีไซน์จึงทำให้เลือกที่จะสร้างสรรค์สินค้าด้วยตัวเองโดยการผลิตกระเป๋าหนังขายนั้นอาจต้องอาศัยใจรักด้วย 2.แหล่งขายส่ง แหล่งขายส่งก็จะมีกระเป๋าหนังมากมายหลากหลายแบบขายแต่อาจต้องสรรหาสินค้ามากเป็นพิเศษเพราะแหล่งขายส่งขนาดใหญ่มักขายส่งกระเป๋าหนังเทียมเป็นจำนวนมากซึ่งแหล่งขายส่งกระเป๋าหนังแท้ราคาถูกนั้นหาซื้อได้ยาก โดยส่วนมากจะนิยมไปซื้อกระเป๋าหนังแท้มาขายสร้างอาชีพได้จาก ตลาดนัดจตุจักร ประตูน้ำ เดอะแพลตินั่ม  เป็นต้น 3.สมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายกระเป๋าหนัง เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหาสินค้ามาขายสำหรับผู้ที่สนใจขายกระเป๋าหนังแท้นั่นก็คือการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับแบรนด์กระเป๋าหนังต่าง ๆ เพราะปัจจุบันมีกระเป๋าหนังแท้ของไทยหลายแบรนด์ที่เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่าย เพื่อเปิดโอกาสการให้ผู้ที่อยากสร้างอาชีพจากการขายกระเป๋าหนังโดยที่ไม่ต้องลงทุนผลิตเอง ส่วนเงื่อนไขก็จะเป็นไปตามที่แบรนด์กำหนดซึ่งผู้ที่เป็นตัวแทนจะได้รับกำไรจากยอดขายตามที่แบรนด์ได้กำหนดไว้   อยากผลิตกระเป๋าหนังแท้ขายเอง ? สำหรับใครที่กำลังมองหาแนวทางในการสร้างอาชีพจากการผลิตสินค้าขึ้นด้วยตนเอง สิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นนั้นมีอะไรบ้าง 1.วิธีการผลิตกระเป๋าหนัง  มีอยู่ 2 วิธีใหญ่ ๆ ได้แก่ งานแฮนเมด (ทำด้วยมือ) และการผลิตด้วยโรงงาน ทั้ง 2 วิธีนี้เป็นวิธีการหลัก ๆ ในการผลิตกระเป๋าเพื่อจำหน่าย งาน แฮนเมด (ทำมือ) ซึ่งผู้ผลิตมักตัดเย็บด้วยตนเองหรืออาจมีลูกมือช่วยในการผลิต สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีการตัดเย็บ สามารถศึกษาได้จากหนังสือคู่มือสอน หรือจากอินเตอร์เน็ต และการลงคอร์สเรียน เพื่อเรียนรู้โดยละเอียดและนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับดีไซน์ของตนเอง งานแฮนเมดเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมในวงการกระเป๋าหนัง ที่กลุ่มลูกค้าชื่นชอบ […]