รีวิวสินค้า อย่างไรให้ปัง!

การรีวิวสินค้าในปัจจุบันถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากเพราะการรีวิวเปรียบเสมือน การบอกต่อแบบปากต่อปากหรือเป็นการแชร์ประสบการณ์จากผู้ใช้จริงที่เราเรียกกันว่า บล็อกเกอร์ บล็อกเกอร์ก็จะคอยให้รายละเอียดสินค้าทั้งยังอธิบายความสามารถรู้สึกที่ได้รับจากสินค้าอย่างชัดเจน บล็อกเกอร์จะมีอิทธิพลต่อการเลือกใช้สินค้าอย่างมาก ดังนั้นการรีวิวสินค้าจึงต้องใช้เทคนิคที่เหมาะสมเพื่อก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ แต่บล็อกเกอร์เขาจะมีเทคนิคอะไรกันบ้างเราไปดูกันเลย   เทคนิคในการรีวิวมีอะไรบ้าง? สร้างความน่าเชื่อถือ การตรวจสอบสินค้าที่น่าเชื่อถือจากการตรวจสอบจากลูกค้าจริง ๆ  หรือผู้ใช้จริงแต่หากต้องทำรีวิวยาว ๆ แบบบทความผู้ประกอบการต้องใช้ความพยายามมากที่สุดเท่าที่จะทำได้พยายามใช้คำที่ดูเป็นธรรมชาติ และทางร้านก็อาจจะมีการแจกของให้กับลูกค้าของเราได้ ให้รายละเอียดของสินค้าแบบไม่ขายของ ส่วนของการใส่รายละเอียดสินค้าควรพูดไปตามจริงว่าสินค้าที่ได้รับนั้นเป็นอย่างไร มีลักษณะแบบไหน เปลี่ยนจากการพูดถึงข้อดีของสินค้าเป็นการเกริ่นก่อนว่าสินค้านี้เขาว่ากันว่าดีอย่างไรบ้างเพื่อจะได้ไม่เป็นการอวยสินค้ามากเกินไปให้รีวิวในส่วนของการทดลองใช้ก่อนแล้วค่อยใส่ความรู้สึกของตัวเองหลังจากทดลองใช้เเล้วภายหลัง ใส่ความรู้สึกตามจริง การรีวิวสินค้าบางครั้งอาจโกหกไม่ได้หรือไม่ควรโกหก เพราะผู้บริโภคเดี๋ยวนี้ฉลาดมากกว่าที่พ่อค้าแม่ค้าคิดนะจ๊ะ รวมไปถึงการใช้หน้าม้านั้นมีเยอะมาก ลูกค้าจะแทบไม่เชื่อการรีวิวที่โกหกเลย จึงแนะนำว่าให้ใส่ความรู้สึกตามจริงลงไป แต่แน่นอนว่าการให้ความรู้สึกในแง่ลบย่อมไม่เป็นผลดี ดังนั้นควรใส่ความรู้สึกเชิงบวกที่สินค้านั้นให้จริง ๆ ส่วนความรู้สึกเชิงลบอาจละเว้นไว้ในบางกรณี การเลือกสินค้ามารีวิว การเลือกสินค้ามารีวิว ให้คิดไว้เสมอว่าก่อนที่จะแนะนำคนอื่นได้นั้นตัวเราเองจะต้องเป็นคนที่รู้จักสินค้าตัวนั้นดีเสียก่อน ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นสินค้าชนิดไหนผู้รีวิวจะต้องทำความรู้จักกับสินค้าทุกซอกทุกมุม รู้ถึงข้อดีข้อด้อย ส่วนประกอบต่าง ๆ สิ่งที่จะได้จากสินค้าตัวนั้นจริง ๆ เพราะการรีวิวแบบตรงไปตรงมาจะสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ตัวผู้รีวิวเอง ถ้าคำนึงถึงความถูกต้อง ซื้อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองและลูกค้า ตามความเป็นจริง ต่อไปคุณจะรีวิวสินค้าชนิดใดก็ได้ เพราะนี่คือจุดแข็งของการรีวิวที่มีประสิทธิภาพ หากพิจารณาสินค้าที่ควรจะนำมารีวิวมีดังนี้ เลือกกลุ่มสินค้า ประเภทสินค้าที่ตนเองเชี่ยวชาญ ก่อนการจำแนกประเภทสินค้าจะช่วยให้การเก็บข้อมูลเข้าใจง่ายขึ้น ทำความเข้าใจ และให้เริ่มจากสินค้าที่ตัวเองนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีก่อน จะทำให้การรีวิว  เลือกกลุ่มเป้าหมาย คือเลือกกลุ่มลูกค้าที่สอดคล้องกับการรีวิว เพื่อที่เราจะได้กำหนดกลุ่มของสินค้า ราคาสินค้า […]

ขายอาหารริมทาง อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ?

การขายอาหารริมทาง ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับการค้าขายอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะคือทำเลที่ตั้ง โดยร้านอาหารนั้นจะตั้งขายอยู่ริมทาง ซึ่งมีรถยนต์สัญจรผ่านไปมา อาหารริมทางแตกต่างจากธุรกิจร้านอาหารและร้านอาหารในศูนย์การค้า ร้านอาหารริมทางจะแฝงไว้ด้วยความเรียบง่าย ไม่หรูหรา สบาย ๆ แต่อาหารริมทางเหล่านี้ก็สามารถสร้างรายได้มากมายอย่างเหลือเชื่อ เพราะคนจำนวนมากนิยมทานอาหารตามร้านขายอาหารริมทางเหล่านี้ วันนี้เราจึงนำเทคนิคการขายมาฝากสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีที่เพิ่มยอดขายให้มากขึ้น ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักร้านขายอาหารริมทางกันสักนิดพวกร้านอาหารรถเข็นหรือแผงลอยที่ตั้งขายอยู่ริมทางหรือข้างถนนที่เป็นเส้นทางสัญจรผ่านไปมาของรถยนต์จำนวนมากมีทั้งอาหารเช้าและอาหารช่วงเย็นไปจนถึงดึกแถมยังมีให้เลือกหลากหลายเมนู เช่น ผัดไท หอยทอดก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ข้าวมันไก่ ข้าวแกง และอื่น ๆ อีกมากมายจนเลือกไม่ถูกเลยว่าจะทานอะไรดี ร้านอาหารริมทางถือเป็นเสน่ห์ของกรุงเทพมหานครเลยก็ว่าได้เพราะมีรสชาติที่อร่อยเมื่อเทียบกับร้านอาหารหรู ๆ บางแห่งที่สำคัญคือราคาถูกจึงได้รับความนิยมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติทำให้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน เทคนิคขายดี การขายอาหารริมทางก็ต้องมีเทคนิคในเรื่องของการขาย เพราะไม่ใช่ว่าทุกร้านจะประสบความสำเร็จทั้งหมด เราไปดูกันเลยว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ทำเลถือเป็นกุญแจสำคัญ ดังนั้นควรใส่ใจเป็นอันดับแรกเลยก็ว่าได้ โดยเลือกทำเลที่มีรถยนต์สัญจรผ่านไปมาจำนวนมาก ที่สำคัญต้องมีที่จอดรถที่สามารถซื้อได้ง่าย ไม่ใช่ริมทางห้ามจอด หรือหาที่จอดได้ลำบากยากยิ่ง และถ้าหากจะขายบนที่ห้ามจอดจริง ที่ตรงนั้นต้องเป็นแหล่งคนหรือเป็นย่านคนเดิน ที่มีคนเดินพลุกพล่านอยู่แล้ว ที่ไม่ต้องง้อรถยนต์แวะจอดซื้อก็ได้ รับรองว่าจะทำให้ขายดิบขายดีอย่างแน่นอน เมนู นอกจากทำเลที่ตั้งแล้วการขายอะไรก็เป็นโจทย์ที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะสิ่งที่เราจะขายนั้นต้องสอดคล้องกับกลุ่มคนตรงนั้นด้วย ยกตัวอย่างถ้าหากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ควรเจาะจงไปที่เมนูขึ้นชื่อของบ้านเราที่นักท่องเที่ยวรู้จักและให้ความนิยม อย่างเช่น ผัดไท ส้มตำ เป็นต้น หรือใกล้แหล่งที่อยู่อาศัย ให้เจาะจงเมนูที่คนไทยนิยมทานในชีวิตประจำวัน อย่างพวกก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ลาดหน้า เป็นต้น […]

7 วิธีพัฒนาการตลาดให้ธุรกิจขนาดเล็ก

เชื่อว่าตอนนี้หลายคนมีความฝันอยากจะเป็นเจ้าของกิจการเล็ก ๆ น้อย ๆ  ก็จะได้รับเงินมากมายสำหรับชีวิตเพราะไม่ต้องสวดภาวนาในการเขียนแผนธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนใหญ่แล้วมีค่าใช้จ่าย สูง แต่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจขนาดใหญ่ก็ไม่ว่าจะเพิ่มขึ้นได้ง่าย แต่ในแง่ของการทำธุรกิจขนาดเล็กจะทำให้คุณสามารถบริหารจ ดการได้อย่างมีประสิทธิภาพวันนี้ เรามีแนวคิดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กให้เติบโตได้ไม่ยากอีกต่อไปวิธีต่อไปนี้ที่ได้มีการทดลองทำและทดสอบแล้วว่าได้ผล   เพิ่มคุณภาพของคอนเทนต์ – สินค้าที่ผลิตจากนั้นจะสะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก่อนที่จะลงมือทำคุณจะต้องกำหนดแนวทางก่อนที่จะต้องการให้คอนเทนต์เป็นไปในทิศทางใด จากนั้นคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจด้วยคำหลักที่ลูกค้าจะสามารถหาได้ในเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจแบรนด์มากขึ้นได้รับช่วยเพิ่มการเข้าชมเว็บไซ ์ของคุณและช่วยให้คุณเข้าถึง กลุ่มเป้าหมายได้อย่างคุ้มค่า สร้างความโดดเด่นให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน –การสร้างความแตกต่างที่มีความแตกต่างกันจะช่วยให้คุณสามารถยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณได้รับบางครั้ง ทราบยอดที่มีความแตกต่างเป็นเรื่องของราคาหรือการขายที่ไม่ซ้ำกับคนอื่น ๆ ที่อาจทำให้คุณขายผลิตภัณฑ์ได้ในรูปแบบพรีเมี่ยมได้ เขียนเป็นบล็อกหรือบทความ –เขียนบล็อกเกี่ยวกับสินค้าและบริการช่องทางนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของสินค้าและการรวบรวมคนที่สนใจในสินค้าอยู่แล้วให้ไปรวมอยู่ในกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ใช้บทความแสดงความคิดเห็น เชี่ยวชาญในเรื่องที่เกี่ยวกับสินค้าของคุณและทำให้พวกเขากลายเป็น“ผู้มีอิทธิพล”ในแวดวงสินค้าของคุณ นำเสนอผลงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ –การตีพิมพ์หนังสือหรือการเขียนบทความเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการที่คุณอาจทำให้คุณดูเป็นผู้มีอิทธิพลที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของผู้ประกอบการในแวดวงธุรกิจของคุณ ความสนใจมากขึ้น การใช้งานโซเชียลมีเดีย –การทำงานร่วมกับโซเชียลมีเดียได้รับการจัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วิเคราะห์คู่แข่ง –วิเคราะห์คู่แข่งโดยเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังแข่งขันและผู้ที่แย่งส่วนแบ่งตลาดที่คุณต้องการและเขาทำข้อมูลเชิงลึกที่เกิดจากการวิเคราะห์ดังกล่าวสามารถนำมาใช้เพื่อธุรกิจของคุณ ได้และจะกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ๆ สร้างธุรกิจของคุณบนGlobalLinker  – GlobalLinker เป็นชุมชนที่กำลังเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมธุรกิจการออมจะเปิดโอกาสให้เครือข่ายและได้รับข้อเสนอพิเศษสำหรับธุรกิจของคุณ

4 สิ่งที่นักการตลาดควรต้องมีในการทำอาชีพการตลาด!!

เมื่อสภาพการตลาดในปัจจุบันนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้นักการตลาดทุกคนต้องมีทักษะหรือพัฒนาความรู้ พร้อมนิสัยในการทำการตลาดแบบใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อทำให้ตัวเองทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สิ่งที่จะช่วยให้นักการตลาดสามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคนี้ได้และทันการเปลี่ยนแปลงของตลาด นี้คือ 4 สิ่งที่นักการตลาดในปัจจุบันต้องมีติดตัวเอาไว้.. 1. การเอาใจเขามาใส่ใจเรา : เป็นทักษะที่สำคัญอย่างมากที่นักการตลาดต้องมีในปัจจุบันเอาไว้เพื่อการทำการตลาดในอนาคต ทำไมถึงต้องมีทักษะนี้ ก็เพราะการเข้าใจมุมมองของผู้บริโภคนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เมื่อเวลาที่จะต้องทำการตลาดใด ๆ ออกมา การที่นักการตลาดพยายามที่จะเข้าใจกลุ่มเป้าหมายในเชิงลึกถึงระดับอารมณ์และจิตวิทยานั้นจะทำให้นักการตลาดสามารถสร้างการตลาดที่มีความหมายเชิงลึก 2. การเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด : สิ่งต่อมาที่จะทำให้นักการตลาดสามารถปรับตัวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างสม่ำเสมอนั้นคือการเรียนรู้ที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา หาความรู้อยู่เสมอ ด้วยการพัฒนาการเรียนรู้ต่าง ๆ นี้จะทำให้นักการตลาดสามารถทดลองสิ่งต่าง ๆ จนรู้ว่ากระบวนการทำงานมันทำงานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ข้อดี ข้อเสีย อะไรควรทำและไม่ควรทำ สิ่งที่นักการตลาดควรต้องเริ่มทำคือกระบวนการเรียนรู้ความคิดต่าง ๆ แบบนักวิทยาศาสตร์ ด้วยการตั้งปัญหา สร้างสมมุติฐาน พิสูจน์และทดลอง หาข้อสรุปออกมา จนทำให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงความรู้นั้นได้ถึงแก่นของความรู้นั้น ๆ 3. หัดทำการวัดทุกสิ่ง : ด้วยการที่ยุคนี้สามารถทำอะไรทุกอย่างผ่านออนไลน์ได้ ทำให้มีค่ามากมายที่เกิดขึ้นมา สิ่งที่นักการตลาดควรหัดให้เป็นคือ การสามารถที่จะวัดค่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ออกมาให้ได้ และทำความเข้าใจในแต่ละมาตรวัดว่าทำไปเพื่ออะไร ได้อะไรออกมา หรือค่าการวัดที่ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงทั้งหมดออกมา […]

3 เคล็ดลับ ทำให้แบรนด์ถูกจดจำและสนิทสนมกับลูกค้ามากขึ้น

ถ้าแบรนด์ของคุณถูกจดจำและสนิทสนมกับลูกค้า มันก็จะทำให้แบรนด์ของคุณเติบโตได้มาก สร้างรายได้มากขึ้น และพัฒนาได้มากขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลยล่ะ ถ้าอยากรู้ว่าทำอย่างไรบ้าง มาอ่าน เคล็ดลับเหล่านี้กันเถอะ   1.รักษาตัวตนสม่ำเสมอให้น่าจดจำและสนิทกับลูกค้า โซเชียลมีเดียทำให้ผู้คนรักที่จะรู้จัก สนิทสนมกับแบรนด์มากขึ้น ถ้าแบรนด์มีความน่าจดจำและรักษาความสม่ำเสมอในการสานสัมพันธ์กับลูกค้า แฟนๆ ก็ย่อมจะทำให้แบรนด์นั้นเป็นแบรนด์ที่แตกต่างขึ้นมาอย่างสุดๆ และได้ใจลูกค้าไปอย่างยิ่ง ยกตัวอย่าง KFC ที่มีตัวตนแบรนด์ที่ชัดเจนในการรักษาความสม่ำเสมอในการตอบกลับสไตล์ของแอดมินเพจ ที่ทำให้แบรนด์ไก่ทอด อาหารฟาสฟู้ดเจ้านี้ กลายเป็นที่จดจำได้มากกว่าแบรนด์อื่นๆในสายเดียวกัน แบรนด์ไม่จำเป็นต้องมีตัวตนที่หลุดโลกเสมอไป ถ้าแบรนด์ของคุณจะเป็นสายขี้เล่น ก็จงขี้เล่นอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คนจำได้ว่าแบรนด์ของคุณนั้นมีตัวตนอย่างไร ถ้าแบรนด์ของคุณชอบแซะ ก็จงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ให้ดี การคงตัวตนของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ และ การทำความสนิทสนมกับลูกค้าตามสไตล์แบรนด์ของตนเองอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้แบรนด์ของคุณถูกจดจำง่ายขึ้น แถมทำให้ได้ลูกค้าแฟนพันธุ์แท้มาด้วย   2.ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อย ผู้คนไม่ได้ตกหลุมแบรนด์ที่ความยิ่งใหญ่ ชื่อเสียง เพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังตกหลุมรักแบรนด์ที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่คนมักจะมองข้ามอีกด้วย อย่าง การดูแลลูกค้าแบบพิเศษ การออกแบบสินค้าที่มีเอกลักษณ์ของแบรนด์แฝงอยู่ หรือ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รายละเอียดเล็กน้อยคือสิ่งที่ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้ รายละเอียดเล็กน้อยทำให้ผู้คนเลือกที่จะกลับมาหาแบรนด์ของคุณบ่อยมากขึ้น อย่าง Starbucks บางสาขาที่มีการเขียนข้อความเล็กๆน้อยๆให้ลูกค้าเพื่ออวยพรให้เป็นวันที่ดี หรือขอให้โชคดี สาขานั้นก็จะมีลูกค้าขาประจำกลับมามากขึ้น   สร้างรายละเอียดเล็กน้อยของแบรนด์ของคุณขึ้นมา ใส่ใจมันให้ดี เพราะนั้นจะทำให้แบรนด์ของคุณถูกจดจำ […]

สร้างแบรนด์ขั้นเทพ ความสุขที่มากกว่าผลกำไร

สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมมีเรื่องราวของรุ่นพี่ที่ผมนับถือมากคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังครับ พี่ชายคนนี้เป็นคนมากความสามารถ ที่สำคัญมีความเป็นตัวของตัวเองสูง นี่อาจจะเป็นจุดเด่นของเขาเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันพี่ชายคนนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในวงการอาหาร ออกทีวีหลายรายการจนนับไม่ถ้วน พี่คนนี้ คือ “เก๋ บ้านถั่วเย็น” เจ้าของร้านอาหาร-ขนม ที่ดังที่สุดในหัวหินเวลานี้ เริ่มจากศูนย์ พี่เก๋ได้สั่งสมประสบการณ์ด้วยการทำงานในร้านอาหารที่อังกฤษในวัยเรียน เริ่มต้นตั้งแต่การเป็นเด็กเสิร์ฟ พัฒนาจนเป็นผู้ช่วยเชฟ และก้าวขึ้นป็นผู้จัดการทั่วไป ด้วยใจที่เป็นอิสระ และรักในการออกแบบ (จากพื้นฐานการศึกษากราฟฟิกดีไซน์) พี่เก๋ได้ตัดสินใจเริ่มต้นกิจการ “บ้านถั่วเย็น” ที่บ้านเกิด อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนประสบความสำเร็จอย่างที่ได้กล่าวมา กับช่วงเวลา 6 ปี พี่เก๋ “บ้านถั่วเย็น” สามารถสร้างแบรนด์จนติดตลาดได้อย่างไร จนใครไปใครมาหัวหิน ต้องแวะร้านนี้ พี่เก๋ได้ให้แนวคิดในการสร้างแบรนด์ขั้นเทพ ไว้ดังนี้ครับ 1. เริ่มจากการมีทัศนคดีเชิงบวก (Be Optimistic) การคิดบวก จะช่วยให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์ 2. หาจุดแข็งของสินค้าหรือบริการให้เจอ (Find Strength) รากฐานของแบรนด์ที่ดี… เริ่มต้นที่จุดเด่นของตัวสินค้าหรือบริการ 3. ระบุกลุ่มเป้าหมาย (Identify Target Group) เมื่อเจอจุดแข็งของสินค้าหรือบริการแล้ว… นำมันออกมาใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา และถูกกลุ่มเป้าหมาย 4. […]

3 วิธีที่ทำให้ลูกค้า รู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นง่ายๆ ที่คุณก็ทำได้

ลูกค้า คือ พระเจ้า อาจจะเป็นประโยคที่กล่าวเกินจริงเกินไป แน่นอนว่าลูกค้าควรได้รับความสำคัญและคุณค่า แต่พวกเขาก็ไม่ควรได้รับอภิสิทธิ์ที่มากเกินไปและจำไว้เสมอว่า พวกเขาไม่ใช่พระเจ้า แต่จะปฏิบัติอย่างไรให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่าโดยไม่ทำแบบพวกเขาเป็นพระเจ้าล่ะ มาดูวิธีการ 5 วิธีที่ทำให้ลูกค้า รู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นง่ายๆ ที่คุณก็ทำได้กันเถอะ ว่ามีวิธีใดบ้าง   1.เก็บข้อมูลสร้างฐานกลุ่มลูกค้าประจำ การเก็บข้อมูลลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ การมีข้อมูลกลุ่มลูกค้าจะทำให้คุณรู้จักความต้องการของพวกเขา ปัญหาที่เกิดขึ้นและการนำเสนอสินค้า บริการให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ดีมากขึ้น โดยการเก็บข้อมูลสร้างฐานกลุ่มลูกค้าประจำ จะช่วยในการทำให้ลูกค้าขาประจำรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น พวกเขาจะมีความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์มากขึ้น มีแนวโน้มที่จะซื้อและเชิญชวนเพื่อนๆมาสนับสนุนแบรนด์ของคุณ ดังนั้นการจัดเก็บข้อมูลว่าใครคือลูกค้าประจำ พวกเขาต้องการอะไร การนำเสนอสิทธิพิเศษ การนำเสนอความพิเศษให้แก่พวกเขา จะช่วยให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่าอย่างยิ่ง การเก็บข้อมูลนี้รวมถึงการจัดรวบรวมคำวิจารณ์ของลูกค้ามาปรับปรุงอีกด้วย เพราะเมื่อพวกเขาได้รับการได้ยินและเห็นการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ นั้นจะยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกรักแบรนด์คุณสุดๆไปเลยล่ะ   2.รู้จัก ขอบคุณ การขอบคุณ เป็นการแสดงออกง่ายๆแต่มีผลอันยิ่งใหญ่ โดยการขอบคุณนั้นช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น ไม่เพียงแต่การพูดปากเปล่าว่าขอบคุณเท่านั้น อาจจะรวมถึงการแสดงความขอบคุณในรูปแบบอื่นอย่างการมอบสิทธิพิเศษให้เนื่องในโอกาสวันสำคัญของลูกค้า การส่งคำอวยพรให้ในวันเกิด หรือการส่งของขวัญให้เนื่องในช่วงสำคัญ เป็นแคมเปญพิเศษ   3.เข้าถึงได้ง่าย สิ่งที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่มีคุณค่าก็คือการโดนเพิกเฉยจากช่องทางติดต่อของ แบรนด์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นผ่านพนักงาน หรือช่องทางเข้าถึงออนไลน์ ช่องทางการเข้าถึงแบรนด์นั้นควรจะเป็นช่องทางที่เข้าถึงได้ง่ายและแบรนด์มีความใส่ใจในการตอบปัญหาลูกค้า การแก้ไขปัญหาลูกค้าหรือรับฟังพวกเขาอย่างแท้จริง ถ้าลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้ง่าย มีปัญหาอะไรสามารถหาข้อมูล ติดต่อสอบถามได้ทันที […]

5 วิธีทำให้ ความสัมพันธ์ระหว่างดิจิทัล เอเจนซี่ และ ลูกค้า นั้นยอดเยี่ยม

การรักษาความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าให้ดีนั้นเป็นสิ่งที่ บริษัทดิจิทัล เอเจนซี่ ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะยิ่งสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไว้ได้กับลูกค้า ก็จะทำให้บริษัทคุณก้าวหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ ทำให้คุณมีโอกาสได้รับงานจ้างมากขึ้นในอนาคตและยังมีโอกาสที่จะได้รับการแนะนำงานเพิ่มเติมอีกด้วย มาอ่านกันเถอะว่า 5 วิธีทำให้ ความสัมพันธ์ระหว่างดิจิทัล เอเจนซี่ และ ลูกค้า นั้นยอดเยี่ยม มีอะไรบ้าง   1.จงแคร์อย่างแท้จริง ถ้าอยากให้ความสัมพันธ์ใดได้ ก็เริ่มต้นจากการแคร์อย่างแท้จริงแก่ความสัมพันธ์นั้นก่อน เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างดิจิทัล เอเจนซี่ และ ลูกค้า ถ้าบริษัทไม่แคร์ต่อลูกค้าอย่างแท้จริง พวกเขาดูออกเสมอ และนั้นทำให้พวกเขาไม่อยากจะกลับมาร่วมงานบ่อยนัก ดังนั้น แคร์พวกเขาอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ถามไถ่ไปพอผ่านๆเวลา แต่ให้ใส่ใจพวกเขา แล้วความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและลูกค้าก็จะออกมายอดเยี่ยม 2.ซื่อสัตย์และทำตัวโปร่งใส อย่าปิดบังอะไรแก่ลูกค้าของคุณ มิเช่นนั้นความสัมพันธ์นี้จะเต็มไปด้วยความอึดอัด ถ้าบริษัทดิจิทัล เอเจนซี่ของคุณนั้นทำตัวเหมือนมีอะไรปิดบังอยู่ ไม่ยอมเล่ารายละเอียดงานที่ชัดเจน ไม่ซื่อสัตย์ ทำตัวไม่โปร่งใส ดูมีลับลมคมใน จะยิ่งทำให้ลูกค้ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเท่าไรกับตัวบริษัท แม้จะได้งานที่ต้องการ แต่คงจะไม่อยากทำงานร่วมกันอีกแน่นอน ดังนั้น ถ้าอยากให้ความสัมพันธ์ดี ให้ทำตัวโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ชัดเจนว่ามีการทำงานอย่างไร เล่าสิ่งที่ลูกค้าสงสัย ตอบคำถามลูกค้าอย่างตรงไปตรงมา และง่ายๆ แค่ซื่อสัตย์เข้าไว้ เท่านั้นเอง 3.รายงานความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ ใครๆก็รักการได้รับข่าวสาร […]

สรุป E-Commerce ในไทย 2560

การรายงานจากทาง ETDA ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของ E-Commerce ในไทยปี 2560 ที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างสูง โดยมีมูลค่าทั้งหมดอยู่ที่ 2,812,592,03 ล้านบาท อัตราการเติบโตจากปี 2559-2560 เพิ่มขึ้นถึง 8.76% จากข้อมูลเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ดีว่า E-Commerce ในไทยนั้นยังมีการเติบโตมาเรื่อยๆและยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกต่อไปด้วย   3 อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง 3 อุตสาหกรรม E-Commerce ที่มีการเติบโตสูงที่สุดก็คือ 1.อุตสาหกรรมการค้าปลีกและการค้าส่ง 2.อุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก 3.อุตสาหกรรมการผลิต   จำแนกสินค้าและบริการที่ขายดีที่สุดได้ดังนี้ 1.ธุรกิจห้างสรรพสินค้า 2.จำหน่ายอาหาร อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม 3.เครื่องสำอาง อาหารเสริม น้ำหอม และ อุปกรณ์เสริมความงาม   เทรนด์ปี 2018 1. E-Commerce ที่นำ Ai มาช่วย 2. Online to Offline VS Online to Online 3. […]

พลังแห่งคอนเทนต์ และเหตุผลว่าทำไมกัน คอนเทนต์ ถึงคือ ราชา

“คอนเทนต์ คือ ราชา.” คือหัวข้อของเรียงความที่ บิล เกตส์ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ Microsoft ค.ศ.1996 และประโยคที่สนับสนุนเหตุผลว่าทำไมกัน คอนเทนต์ ถึงคือราชาในยุคแห่งอินเทอร์เน็ตนั้นก็คือ “คอนเทนต์คือที่ที่ผมคาดหวังว่ามันจะสร้างเงินได้เป็นจำนวนมากบนโลกออนไลน์ เช่นเดียวกันกับการกระจายข่าวสารข้อมูล.” ในตอนนั้นมีเพียงบางส่วนของโลกเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และผู้ที่รู้จักใช้ผลประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต รู้จักพลังแห่งคอนเทนต์ก็ต่างสำเร็จผลอันยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ อย่าง แจ็ค หม่า เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้จักพลังแห่งคอนเทนต์และเริ่มต้นจากการสร้างเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลเล็กๆที่เป็นฐานก้าวไกลไปสู่เว็บค้าปลีกแห่งเอเชียได้ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจและแบรนด์ดังมากมายที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลยแต่ก็สามารถพัฒนาตนเองจนกลายเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะรู้จักพลังแห่งคอนเทนต์  บิล เกตส์ได้ทำนายอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ตล่วงหน้าไว้ถึง 20 ปีแล้วและสิ่งที่เขาทำนายไว้นั้นก็ถูกต้อง ยิ่งในทุกวันนี้ เป็นยุคที่ คอนเทนต์ คือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์และธุรกิจ มันสามารถช่วยให้แบรนด์ก้าวไกลเป็นแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลได้ มันสามารถช่วยธุรกิจให้สามารถสร้างยอดขายมากกว่าเดิมได้ ถ้าหากคุณยังไม่เชื่อว่า คอนเทนต์นั้นมีพลังมากขนาดไหน มาอ่านเหตุผลที่จะช่วยให้คุณเข้าใจพลังของคอนเทนต์มากขึ้นและรู้ว่าทำไมกันถึงต้อง ขนานนามมันว่า คอนเทนต์ คือ ราชา แห่งโลกออนไลน์ คอนเทนต์สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจ คอนเทนต์ช่วยสร้างยอดขายใหม่ๆให้กับธุรกิจได้ คอนเทนต์ที่ดีช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วม คอนเทนต์ดีต่อ SEO คอนเทนต์คุณภาพ > คอนเทนต์ปริมาณมาก   คอนเทนต์สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจ พลังสำคัญของคอนเทนต์นั้นก็คือมันสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจได้มากขึ้น เมื่อมีการเผยแพร่คอนเทนต์สู่โลกออนไลน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการของแบรนด์จะช่วยให้ลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ในอนาคตเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์นั้นมากขึ้น พวกเขาจะสามารถเข้าใจว่า แบรนด์นั้นต้องการสื่อถึงอะไร ขายอะไรบ้างและทำให้พวกเขารู้จักแบรนด์มากขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างแบรนด์หนึ่งที่มีคอนเทนต์ให้อ่านเกี่ยวกับสินค้าและบริการ มีคอนเทนต์อัปเดตใหม่ๆอยู่เสมอและอีกแบรนด์ที่ไม่มีคอนเทนต์ที่อัปเดต ไม่มีคอนเทนต์มากมายให้อ่านมากนัก […]