นี่ก็ผ่านไป 8 เดือนแล้วนะคะ ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่นายตัวแสบ Elon Musk เข้ามา Take over Twitter อันแสนรักของชาวทวิตเตี้ยนแบบดิชั้น และก็นำพาเรื่องราวชวนปวดหัวไม่หยุดไม่หย่อนกันเลยทีเดียว
เมื่อไม่นานมานี้ตัวผู้เขียนได้มีโอกาสชมคลิปของ คุณแต๋ง กฤษฏิ์กุล ชุมแก้ว เจ้าของร้าน “After Yum” ที่ได้ขึ้นไปพูดในงาน Modern Business Night ของทาง Capital ซึ่งนอกจากความรู้และแง่คิดในการบริหารธุรกิจของคุณแต๋งแล้ว วิธีการนำ Data
ถึงแม้ว่าจะมีกระแสโจมตีหลายแบรนด์ถึงการพยายามย้อมสีรุ้ง (Rainbow Washing) โดยไม่ได้สนใจเรียกร้องสิทธิ LGBTQ+ Community กันอย่างจริงจัง แต่เมื่อเข้าถึงเดือนมิถุนายน หลายแบรนด์ก็ร่วมเฉลิมฉลอง
ประเด็นเรื่องความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศเป็นประเด็นหลักที่เหล่าชุมชน LGBTQIAN+ ร่วมผลักดันมาโดยตลอดในหลากหลายประเทศ วันนี้ Ensure จึงขอพาทุกท่านทุกเพศสภาพมาทำความรู้จักกิจกรรมเพื่อผลักดันประเด็นความเท่าเทียมในหลากหลายประเทศในแถบเอเชียกันว่า แต่ละประเทศมีการจัดกิจกรรมและมีเป้าหมายการผลักดันอย่างไรกันบ้าง
ตอนนี้ก็เข้าสู่เดือนมิถุนายน เดือนสีรุ้งแห่งการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIAN+ ซึ่งจริง ๆ แล้ว คนทุกคน ทุกเพศสภาพ ทุกอัตลักษณ์ ก็สามารถร่วมเฉลิมฉลองไปพร้อม ๆ กันได้ นี่คือชัยชนะของการ การต่อสู้เพื่อการแสดงออกถึงสิทธิ เสรีภาพ ในอัตลักษณ์ของตน ที่ไม่ต้องถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดทางสังคมอีกต่อไป ภายใต้ภาพบรรยากาศแห่งการประดับประดาไปด้วยธงสีรุ้ง ช่วงเวลาของสินค้าและเคมเปญการตลาดมากมายเพื่อเอาใจกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน การแสดงออกที่ผิดกับเพศกำเนิดของตัวเองถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามในสังคม ชาว LGBTQIAN+ หลาย ๆ คนต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ หวาดกลัวต่อคำว่าร้ายต่าง ๆ นานา หนักที่สุดในบางแห่งจนถึงขั้นประกาศใช้เป็นกฏหมาย การจะมีความรักอย่างจริงใจต่อใครซักคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เพศตรงข้ามนั้น เป็นเพียงแค่เรื่องความฝัน ครั้ลบเลือนหายไปพร้อมกับหยาดน้ำค้างยามเช้า เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1969 เจ้าหน้าที่ตำรวจของสหรัฐฯ ได้บุกเข้าจับกุมตัวผู้ใช้บริการในบาร์เกย์ “สโตนวอลล์ อิน” (Stonewall Inn) การเข้าจับกุมครั้งนี้ดำเนินไปด้วยความรุนแรง ถึงแม้บาร์แห่งนี้จะถูกบุกจับบ่อยครั้ง แต่ในครั้งนี้แรงปะทุจากความอัดอั้นก็ถูกระเบิดขึ้น จากการบุกจับกุมจึงถูกตอบโต้ด้วยผู้คน ลุกลามไปจนเป็นการชุมนุมประท้วง เพื่อทวงคืนสิทธิเสรีภาพของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ในวินาทีนั้นไม่มีใครหวาดกลัวที่จะต้องประกาศว่าตัวเองไม่ใช่ Straigt อีกต่อไป […]
นโยบายเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าของแต่ละพรรคมีอะไรบ้างตามไปดูกัน พรรคการเมืองเกือบทุกพรรค ต่างเอานโยบายพลังงานมาขยี้กันสุดฤทธิ์ ซึ่งในช่วงเดือน มีนาคม – เมษายน ทุกครัวเรือนได้เผชิญกับราคาค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เหตุจากค่าเอฟที (FT) ที่เรารู้จักกัน คือ การปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือค่าไฟฟ้าผันแปร ซึ่งเป็นค่าไฟฟ้าที่ปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นหรือลดลง ตามการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้า ซึ่งมีค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการสำรองไฟฟ้าจนล้นประเทศ ระหว่างนี้หลายพรรคการเมือง จึงตั้งนโยบายเกี่ยวกับการลดค่าไฟฟ้า โดยเสนอทางเลือกในการแก้ปัญหาราคาค่าไฟฟ้าเฉพาะหน้า มีหลายแนวคิดที่น่าสนใจ Ensure จึงยกตัวอย่างมาบางส่วนที่มีนโยบายโดดเด่น นโยบาย พรรคก้าวไกล ลดค่าไฟฟ้าทันที 70 สตางค์ต่อหน่วย ภายใน 100 วันหลังเป็นรัฐบาล เปลี่ยนการจัดสรรก๊าซธรรมชาติมาผลิตไฟฟ้าให้ประชาชนก่อนขายกลุ่มทุน พรรคเพื่อไทย ปรับลดค่าไฟฟ้าตามทุนราคาพลังงาน และพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตสอดคล้องกับปริมาณไฟฟ้าสำรองที่สั่งซื้อจากเอกชน พรรคพลังประชารัฐ ลดค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือน เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย ภาคธุรกิจ 2.70 บาทต่อหน่วย พรรคประชาธิปัตย์ ลดปริมาณไฟฟ้าสำรองของ กฟผ. ลงเหลือ15เปอร์เซ็น พรรคภูมิใจไทย หลังคาโซลาร์เซลล์ฟรี 21 ล้านหลังคาเรือน ลดไฟฟ้าหลังคาเรือนละ 450 […]
ส่องเทรนด์การเมืองไทย ด้วยเครื่องมือ Social Lisening อย่าง Meltwater ปัจจุบัน twitter เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม มีผู้ใช้งานในประเทศไทยมากกว่า 11 ล้านบัญชี ทวิตเตอร์เข้ามามีบทบาทเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องการเมืองไทยที่กำลังได้รับความนิยมในประเด็น “การเลือกตั้ง 2566” เป็นที่จับตามองซึ่งมีเยาวชนให้ความสนใจอย่างมาก ในวันนี้เราจะพามาดูแฮชแท็กของพรรคการเมืองไทยว่าพรรคไหนมาแรง !! ตั้งแต่ต้นปี 2566 แฮชแท็กการเลือกตั้งก็เป็นกระแสขึ้นมา แม้จะมีพรรคการเมืองลงสมัครมากถึง 70 พรรค แต่กระแสใน Twitter ประชาชนให้ความสนใจอยู่เพียงไม่กี่พรรค Ensure จะพามาดูแฮชแท็กของพรรคการเมืองต่างๆ จากกราฟจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แฮชแท็กพรรคการเมือง 6 พรรค ได้รับกระเแสนิยมไม่ต่างกันมาก แต่ในช่วงกลางเดือนมีนาคม กระแสนิยมของพรรคเพื่อไทยมีการพูดถึงมากขึ้น และในช่วงต้นเดือนเมษายนพรรคก้าวไกลมีการพูดถึงที่ก้าวกระโดดเนื่องจากมีการแสดงจุดยืนของพรรคอย่างชัดเจนว่าไม่เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ทางหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถบอกจุดยืนที่ชัดเจนในเวทีดีเบตได้ การโต้เถียงกันใน Twitter ส่วนใหญ่คือเรื่องการเห็นต่างทางความคิด นโยบายของพรรคที่มีจุดยืนแตกต่างกัน ส่งผลให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างพรรคการเมืองที่มีมานานกับพรรคใหม่ที่มีสมาชิกเป็นคนรุ่นใหม่ คนส่วนมากมีความเห็นต่างจากระบบเดิมอยู่แล้วจึงทำให้เสียงข้างมากบนออนไลน์เทคะแนนมาทางพรรคฝ่ายค้าน สุดท้ายนี้ Ensure ขอเชิญชวนทุกคนอย่าลืมไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. […]
ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ เชื่อว่าหลายๆคนจะต้องได้เห็นน้อง “คาปิบารา” ผ่านตากันมาบ้างในโซเชียลมีเดีย สัตว์โลกน่ารักที่ใครเห็นต่างก็เอ็นดูและโดนตกเป็นแฟนคลับกันถ้วนหน้า น้องคือตัวอะไร และทำไมถึงกลายเป็นไวรัลโด่งดังในโซเชียลมีเดีย วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักน้องให้มากขึ้นกันค่ะ คาปิบารา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์ฟันแทะที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก กินพืชเป็นอาหาร มีน้ำหนักตัวอยู่ในช่วง 35-70 กิโลกรัม โดยลักษณะของน้องจะเหมือนกับหนูตะเภา มีขนสีน้ำตาลปกคลุมทั่วตัว ว่ายน้ำเก่ง กินเก่ง เป็นสัตว์สังคมที่อยู่รวมกันเป็นฝูง และเป็นมิตรกับมนุษย์ ด้วยพฤติกรรมความเป็นมิตรของน้อง ที่เราต่างก็ได้เห็นกันผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่น้องนอนแช่น้ำอย่างมีความสุข เป็นเพื่อนเล่นกับสัตว์ต่างๆ แม้แต่ภาพที่น้องขี่หลังจระเข้ ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ที่มีความดุร้ายและน่ากลัว แต่คาปิบาราก็ยังเป็นมิตรด้วย รวมถึงหน้าตาและลักษณะภายนอกที่ดูมึนๆ และชิลๆ ทำให้ใครหลายคนต่างก็ชื่นชอบที่จะดูภาพของคาปิบารา นอกจากนั้นเหล่าแฟนคลับคนไทยก็ได้ตั้งชื่อเล่นแบบไทยๆให้น้อง ไม่ว่าจะเป็น กะปิปลาร้า หมามะพร้าว หรือหมากีวี่ ซึ่งก็เป็นความครีเอทที่ทำให้คนเกิดความสนใจ และมาเสิร์ชชื่อเหล่านั้นจนได้มารู้จักกับน้องคาปิบารานั่นเองค่ะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนสอดคล้องกับการตลาดแบบ Animal Marketing ที่จะใช้ความเอ็นดูของผู้คนที่มีให้กับเหล่าสัตว์ต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์สื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยการใช้สัตว์เป็นสื่อกลาง เพราะธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิดนั้นมีความเป็นสากล ถ้าพูดถึงสุนัข ก็สื่อถึงความซื่อสัตย์ แมว สื่อถึงความสุขุม ขี้เล่น ส่วนน้องคาปิบารา ก็อาจเป็นการสื่อถึงความเป็นมิตร และเข้าถึงง่ายของแบรนด์ เหมือนกับตัวอย่างที่เรายกมาให้ดูด้านล่างนี้ค่ะ ที่มา […]
ในช่วงที่ผ่านมานี้ ประเทศไทยเราได้มีอีเว้นต์จัดงานคอนเสิร์ตอยู่หลายงานด้วยกัน ซึ่งแต่ละคอนเสิร์ตต้องบอกว่าแฟนคลับของเหล่าบรรดาศิลปินตามไปกรี๊ด และส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจกันจำนวนมาก เชื่อว่ามีเหล่าแฟนคลับอีกจำนวนไม่น้อยที่ผิดหวังกับการกดจองบัตรคอนเสิร์ตไม่ทัน บ้างก็เจอสถานการณ์เว็บล่ม ทำให้หลายคนอาจคิดว่าเป็นพราะแต้มบุญตัวเองไม่ถึง แต่จริง ๆ แล้วเรื่องนี้มีที่มาที่ไป วันนี้ทีม Tech จะมาไขคำตอบให้รู้กัน! ทำไมเว็บถึงล่มบ่อย? ปัญหาหลัก ๆ ที่เจอกันบ่อยมาก คือ ปัญหาเว็บจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตล่มบ่อย ซึ่งสาเหตุมาจากเว็บไซต์นั้นไม่สามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานที่มากได้ เพราะโดยปกติการจองบัตรคอนเสิร์ตจะมีผู้เข้าใช้งานในเว็บพร้อม ๆ กันมากอยู่แล้ว และเมื่อเข้าใช้งานพร้อมกันจำนวนมากก็นำมาซึ่งเว็บล่ม หรือเปรียบเทียบให้เห็นภาพขึ้นอีกนิดก็เหมือนตอนที่เราขับรถรอจ่ายเงินขึ้นทางด่วน เมื่อปริมาณรถมีมาก แต่ด่านเก็บเงินมีจำกัด ก็ทำให้รถติดสะสมเป็นคอขวด ยิ่งปริมาณรถมากเท่าไร ยิ่งสะสมเป็นคอขวดและรถติดมากขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับเว็บไซต์ที่ล่มเพราะปัญหาจากคอขวดเช่นกัน ซึ่งปัญหานี้จะอยู่กับทางฝั่งฐานข้อมูลเป็นส่วนมาก เพราะการทำงานของโปรแกรมจะเป็นเสมือนการรอคิวในการประมวลผลก่อน คิวถัดไปจึงจะทำงานต่อได้ หากมีคิวรอนานเกินไปก็จะทำให้ไม่สามารถตอบสนองการทำงานได้ตามที่โปรแกรมเขียนไว้ หรือเกิดจากการทำงานอย่างหนักจน CPU และ RAM ของเครื่องเซิฟเวอร์มีอาการ Error และไม่สามารถตอบสนองได้อีกต่อไป วิธีการรันคิวกดบัตรของเว็บ สำหรับขั้นตอนการรันคิวของเว็บไซต์ในการเปิดให้จองบัตรนั้น โดยพื้นฐานแล้วจะเริ่มจากการให้ผู้ใช้งานเข้าไปรับคิวไว้ แล้วคิวจะรันต่อไปเรื่อยๆ เมื่อถึงคิวของตัวเองเว็บจะกำหนดเวลาในการซื้อบัตรมาให้ เช่น 20-30 นาทีต่อคน เป็นต้น ซึ่งช่วงเวลาจะขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละเว็บไซต์ สำหรับการรันคิวเช่นนี้จะช่วยลดภาระไม่ให้เซิฟเวอร์ทำงานหนักเกินไป และยังช่วยขจัดปัญหาการสะสมคิวที่เป็นคอขวดได้ดีประมาณหนึ่งด้วย เคล็ดลับในการกดบัตรยังไงไม่ให้นก? […]
เมื่อเทรนด์การตลาดแบบ Nostalgia ในอดีตนั้นมีคุณค่าที่มากกว่าการให้คิดถึง เพราะเรื่องในอดีตมีอะไรให้คิดถึงเสมอ การหวนนึกถึงอดีตจึงเป็นเหมือนเซฟโซนเล็ก ๆ ในใจที่ทำให้หลายคนยิ้มได้ทุกครั้งที่คิดถึง นักการตลาดที่มองเห็นเรื่องนี้ จึงเลือกที่จะหยิบเอาช่วงเวลาหนึ่ง หรือประสบการณ์ในอดีตที่มันให้ความรู้สึกผูกพันกับผู้คน อย่างยุค 90’s หรือกระแส Y2K มาผสมกับการตลาดจนเป็น Nostalgia Marketing เทรนด์การตลาดที่ทำให้อดีตกลับมาโด่งดังอีกครั้งในยุค 5G Grammy RS Concerts สด ๆ ร้อน ๆ กับการจับมือการของอดีต “คู่แข่ง” ที่ขอพักรบมาเป็น “คู่ค้า” ใน Grammy RS Concerts โปรเจกต์ซีรีส์คอนเสิร์ตที่จะจัดต่อเนื่อง 3 ปีเต็ม รวบรวมเอาศิลปินจากทั้ง 2 ค่าย ที่เราคิดถึงในอดีตตั้งแต่ยุค 1990 – 2000 มารวมกันในคอนเสิร์ตเดียว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการตลาดแบบ Nostalgia Marketing ที่กล้าจะจับเอาทั้ง Grammy และ RS ที่ถือเป็นสองค่ายเพลงคู่แข่งแห่งยุค ถ้ามีโอกาสย้อนกลับไปในอดีตเราก็คงจะไม่เชื่อว่าจะได้เห็นสองค่ายนี้ร่วมมือกัน ที่สำคัญยังทำให้เห็นว่าบางครั้งการทำธุรกิจ […]
